หลังถูกปล่อยทิ้งร้างมานาน วัดปลดสัตว์หรือชื่อเดิมคือ วัดสะแก ก็ได้รับการบูรณะขึ้นอีกครั้งในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือประมาณ พ.ศ. 2400 โดยขุนธรรมการ (ทองคำ) ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ให้เป็นวัดมีพระสงฆ์ และตั้งชื่อใหม่ว่า วัดดำรงค์ธรรม ครั้นสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้เสด็จตรวจการคณะสงฆ์และที่พักที่วัดนี้ ทรงปรารภว่า วัดตั้งอยู่ที่บ้านแห ควรจะชื่อว่า วัดปลดสัตว์ หมายถึง การปลดสัตว์ออกจากแห จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดปลดสัตว์ ในเวลาต่อมาได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมาแห่งแรกของจังหวัดอ่างทองฝ่ายธรรมยุตนิกาย เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2427 (วันศุกร์ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4 ปีวอก) เขตวิสุงคามสีมากว้าง 26 เมตร ยาว 40 เมตร วัดปลดสัตว์นี้เป็นวัดเก่าแก่ที่มีทิวทัศน์สวยงาม โบราณสถานและปูชนียสถานอันทรงคุณค่า โดยเฉพาะถูปาคารเจดีย์ เป็นปูชนียสถานอายุราว 150 ปี ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์วัดปลดสัตว์เลยก็ว่าได้ สร้างมาตั้งแต่การสร้างอุโบสถ์วัดปลดสัตว์หลังเก่า ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงสูงยอดเข้าหากันสูง 7 ชั้น ฐานกว้างด้านละ 7 เมตร 7 เซนติเมตร และหันหน้าออกทางด้านทิศตะวันออก สร้างตามอย่างเจดีย์พุทธคยา มีทั้งหมด 6 ชั้น เปรียบดังสวรรค์ทั้งหกและมีเจดีย์ประดิษฐานอยู่ด้านบนสุด เปรียบดังพระเจดีย์เกตุแก้วจุฬามณี บนสรวงสวรรค์ ซึ่งเชื่อกันว่า คนที่เกิดปีจอหรือปีมะเส็ง หากได้กราบไหว้บูชาจะเกิดผลานิสงส์นานัปการ การเดินทาง ห่างจากตัวเมืองอ่างทอง 7 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 3501 ระหว่างกิโลเมตรที่ 3-4