ภาคใต้อ่วมฝนถล่มทำให้เกิดดินสไลด์หลายพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุการณ์ดินสไลด์ ทำให้ถนนยุบทรุดตัวพังเสียหายที่ถนนสาย ต.หล่อยูง-ต.คลองเคียน บริเวณควนติเตะ รอยต่อระหว่างบ้านบากัน หมู่ 9 ต.หล่อยูง และบ้านติเตะ หมู่ 5 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ทำให้รถไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรผ่านไปมาได้ เจ้าหน้าที่ อบต.หล่อยูง ต้องปิดถนนทั้งสองด้านเพื่อป้องกันอันตราย หลังรับแจ้งรถ จยย.ตกถนนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ 2 ราย มีรถ จยย.ตกเหว 1 คัน จากการ สำรวจพื้นที่พบว่า ถนนสายดังกล่าวเป็นเส้นทางสายหลักไปยังแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง จุดชมวิวเสม็ดนางชี และแหล่งท่องเที่ยวในทะเลคลองเคียนในอ่าวพังงา ช่วงขาลงสู่หมู่บ้านติเตะเป็นทางโค้งบนภูเขาเกิดดินข้างถนนสไลด์ลงไปในเหวด้านล่าง ทำให้ถนน ทรุดตัวยุบพังเสียหายตัดขาด จนไม่สามารถใช้สัญจร ไปมาต้องปิดการจราจร สาเหตุมาจากฝนตกหนักต่อเนื่อง หลายวัน ทำให้ดินอุ้มน้ำไว้มากจนเกิดการสไลด์ตัว

นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ผอ.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้า ปภ.จ.สุราษฎร์ธานี นายสุพัชรพงศ์ วรประดิษฐ์ นายอำเภอพระแสง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หมู่ 2 และ 3 ต.ไทรขึง และหมู่ 8 ต.อิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากเกิดฝนตกหนักมวลน้ำจากคลองอิปัน อ.พระแสง และคลองโตรม อ.ชัยบุรี น้ำล้น ตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 108 ครัวเรือน 440 คน เจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือ

อ่างทองผวา นอนเต็นท์ริมถนน น้ำท่วมรถวิ่งผ่าน สิงห์บุรีอพยพหนี

จ.สตูล น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ เป็นเวลา 5 วัน ขณะนี้น้ำเริ่มลดลงสู่ภาวะปกติ ยกเว้นน้ำค้างทุ่ง และตามบ้านเรือนประชาชน ถนนเต็มไปด้วยโคลนจำนวนมาก การสัญจรเป็นไปด้วยความลำบาก นายวรวุฒิ ปาละสัน นายก อบต.เขาขาว อ.ละงู สั่งการให้เจ้าหน้าที่ นำรถน้ำไปฉีดล้างทำความสะอาดตามถนนอย่างเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ชาวบ้านใน ต. เขาขาว เร่งเก็บกวาดโคลนที่เข้าไปในบ้าน และเตรียมเฝ้าระวังหวั่นฝนตกซ้ำ

สถานการณ์น้ำท่วมหนักที่ จ.อุบลราชธานี นานกว่า 1 เดือน ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 3 แสนไร่ มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท ชาวนา เดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก น.ส.เย็นจิตร วันทาสุข อายุ 38 ปี ชาวบ้านหนองกินเพล อ.วารินชำราบ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมปีนี้ ทำให้ผลผลิต ทางการเกษตรทั้งข้าวและผักสวนครัวกว่า 12 ไร่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายทั้งหมด ไม่มีรายได้จากการเกษตร แต่ต้องเสียเงินลงทุนไปแล้วกว่า 30,000 บาท ทำให้เดือดร้อนมาก ทุกปีรัฐบาลจะมีเงินเยียวยาให้เกษตรกรน้ำท่วมนาปีละ 900-1,000 บาทต่อไร่ แต่ปีนี้พื้นที่เสียหายมาก อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือต่ออย่างน้อย 1,500 บาทต่อไร่ ถึงแม้จะไม่เพียงพอ แต่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้มาก ส่วนเรื่องพันธุ์ข้าวต้องซื้อราคาสูงกิโลกรัมละ 20 บาท แต่ผลผลิตออกมาขายได้กิโลกรัมละ 6 บาท ส่วนค่าปุ๋ยยังไม่พอจ่ายต้องมีหนี้สิน

ส่วนระดับในแม่น้ำมูล จ.อุบลราชธานี น้ำลดลง แต่ยังมีน้ำล้นตลิ่งสูง 4 เมตร แพทย์และพยาบาล โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบก ที่ 22 จ.อุบลราชธานี เข้าไปช่วยชาวบ้านที่ศูนย์อพยพ ชั่วคราวในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ จำนวน 7,190 คน จาก 14 ชุมชน ส่วนใหญ่มีอาการป่วยจาก โรคน้ำกัดเท้า เพราะเดินลุยน้ำเข้าไปดูแลทรัพย์สินในบ้านที่ถูกน้ำท่วม อีกส่วนได้รับบาดเจ็บจากการ เคลื่อนย้ายข้าวของในศูนย์อพยพ ปีนี้แต่ละครอบครัวอพยพหนีน้ำไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง เพราะระดับน้ำท่วมสูงกว่าทุกปี ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบล ราชธานี รายงานสถิติตัวเลขผู้เจ็บป่วยตามศูนย์อพยพ ที่ถูกน้ำท่วม มีผู้ป่วยด้วยโรคน้ำกัดเท้าถึง 5,905 คน ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ 1,472 คน มีอาการผื่นคัน จากน้ำ 334 คน อุจจาระร่วงและอาหารเป็นพิษ 51 คน ตาแดง 33 คน ติดเชื้อโรคเลปโตสไปโรซิส หรือฉี่หนู 2 คน และเสียชีวิต 1 คน

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งอุดพนังกั้นน้ำแตกที่ ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ใช้ตะแกรงเหล็กกั้นเหลือเพียง 10 เมตร จากเดิมขาด 50 เมตร คาดว่าจะสามารถอุดรอยรั่วได้เร็วๆนี้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ จากการสำรวจที่สถานีสูบน้ำกุดขี้นาค และสถานีสูบน้ำกุดแคนเปิดประตูน้ำทุกบานไหลลงสู่แม่น้ำชี นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมจากสำนักงานชลประทาน องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 6 ขอนแก่น เพื่อเร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุด สำหรับผลกระทบที่เกิดจากพนังกั้นแม่น้ำชีขาดล่าสุด มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่รวม 2 อำเภอ 6 ตำบล 21 หมู่บ้าน 1,114 ครัวเรือน 3,451 คน แยกเป็น อ.ฆ้องชัย จำนวน 4 ตำบล 16 หมู่บ้าน 860 หลังคาเรือน 2,596 คน และ อ.กมลาไสย จำนวน 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน 284 หลังคาเรือน 855 คน มีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหายรวมทั้งสิ้น 72,654 ไร่ พื้นที่การประมง 282 ไร่

อ่างทองผวา นอนเต็นท์ริมถนน น้ำท่วมรถวิ่งผ่าน สิงห์บุรีอพยพหนี

จ.สิงห์บุรี คันดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาเกิดแตกที่จุดวัดสิงห์ หมู่ 2 ต.พระงาม อ.พรหมบุรี มวลน้ำไหลทะลักเข้าพื้นที่หมู่ 1 และ 2 ต.พระงาม เข้าท่วมบ้านกว่า 400 หลังคาเรือน นางสมจิต อุสนส่ง อายุ 54 ปี ชาวบ้านเปิดเผยว่า น้ำเข้าท่วมบ้านเร็วมาก ตนตกใจทำอะไรไม่ถูก พ่อกับแม่เป็นผู้ป่วย ติดเตียงต้องช่วยกันยกเตียงหนีน้ำ อีกทั้งยังมีแพะอีก 5 ตัว และวัว 5 ตัว ตนว่ายน้ำไปช่วยเปิดคอกแพะหนีน้ำ แต่กระแสน้ำแรงซัดตัวลอยไปทิศทางอื่น ทำให้แพะจมน้ำตายอยู่ในคอกทั้งหมด ส่วนวัวพี่ชายรีบต้อนขึ้นไปอยู่บนถนนแต่มีหายไป 2 ตัว อยู่ระหว่างออกตามหา ขณะนี้มีทีมอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเข้ามาช่วยอพยพพ่อและแม่ไปยังศาลาวัดสิงห์แล้ว

ที่บริเวณริมถนนป่าโมก-บางบาล หมู่ 5 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ชาวบ้านอพยพมาอาศัยอยู่ที่เต็นท์ริมถนนนานนับเดือน ชาวบ้านเปิดเผยว่า ชีวิตแสนลำบาก น้ำท่วมบ้านต้องย้ายกันออกมา ช่วงยามหลับนอนยังหวาดผวารถยนต์ที่วิ่งผ่านไปมา ส่วนชาวบ้านที่เลี้ยงปลากระชัง เปิดเผยว่า ช่วงนี้น้ำไหลแรงมาก กระชังปลาพังเสียหาย แต่ละวันมีปลากระชังตายลงเป็นจำนวนมาก ต้องพายเรือไปดูกระชังปลาเป็นความหวังเดียวที่นำปลาไปขายสร้างรายได้ ส่วนสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.อ่างทอง เริ่มลดลง ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง สถานีโทรมาตร C.7A มีระดับน้ำอยู่ที่ 9.39 เมตรจากระดับตลิ่ง 10 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,610 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 6 อำเภอ 49 ตำบล 292 หมู่บ้าน 21,595 ครัวเรือน

อ่างทองผวา นอนเต็นท์ริมถนน น้ำท่วมรถวิ่งผ่าน สิงห์บุรีอพยพหนี

ที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายประวิทย์ สุวรรณสัญญา ผู้ประสานงานพรรคสร้างอนาคตไทย จ.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำท่วม พบว่าน้ำเริ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง นายประวิทย์กล่าวว่า ช่วงนี้หลายพื้นที่ผันน้ำมาถึง จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำสูงขึ้นกว่าเดิม อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือ เพราะตอนนี้น้ำท่วมสูงขึ้นต่อเนื่อง ความเสียหายต่อทรัพย์สินมีอยู่แล้ว เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของชาวบ้าน วันนี้ตนไปเยี่ยมชาวบ้านเห็นเด็กนอนอยู่ในเปลที่พื้นปริ่มน้ำ ชีวิตอยู่อย่างลำบาก

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า จากการเปรียบเทียบปริมาณฝนภาพรวมปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 ต.ค. พบว่าสูงกว่าค่าปกติถึง 21 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าปี 2564 ปริมาณ 295 มม. หรือ 17% และต่ำกว่าปี 2554 เพียง 10 มม. หรือ 1% ฤดูฝนปีนี้พบว่าปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านสูงสุด 3,105 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีน้ำจากลุ่มน้ำสะแกกรัง 659 ลบ.ม./วินาที ไหลมาสมทบ รวมมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา 3,707 ลบ.ม./วินาที รับน้ำเข้าคลองฝั่งตะวันตกและตะวันออกรวม 538 ลบ.ม./วินาที ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายตามลำดับ

สำหรับสถานการณ์น้ำไหลบ่าล้นแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกลงทุ่งในพื้นที่ จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้มวลน้ำเคลื่อนตัวผ่านเมืองอ่างทอง อ.โพธิ์ทอง อ.วิเศษชัยชาญ และ อ.สามโก้ จ.อ่างทอง มุ่งหน้าลงแม่น้ำน้อยและไหลไปทุ่งผักไห่ และทุ่งป่าโมกต่อไป

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ในช่วงวันที่ 23-25 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้ลมตะวันออกที่พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนบน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันตอนกลางเคลื่อนไปปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอล ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลงคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

Share.

พระสมเด็จเกษไชโย หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ วีรไทยใจกล้า ตุ๊กตาชาววัง โด่งดังจักสาน ถิ่นฐานทำกลอง เมืองสองพระนอน