เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำ ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ภาคกลาง พบว่าน้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มมากขึ้น วัดได้ในอัตรา 1,996 ลบ.ม./วินาที และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นได้อีก จากปริมาณน้ำฝนจากทางตอนบนของประเทศ โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดวัดได้ +16.42 เมตร
โดยเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้คงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 1,948 ลบ.ม./วินาที เป็นวันที่ 4 ซึ่งจากการระบายน้ำในเกณฑ์ดังกล่าวส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัว ในช่วง 24 ชม. ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมาวัดได้ +14.33 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 2.01 ม. ทำให้ประชาชนที่มีบ้านอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ ต.หาดอาษา อ.สรรพยา เริ่มทยอยเก็บข้าวของเครื่องใช้ขึ้นไปไว้บนที่สูงให้พ้นน้ำเพราะยังไม่ไว้วางใจสถานการณ์
ซึ่งจากที่เขื่อนเจ้าพระยาคงการระบาย จะส่งผลต่อพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไปถึง จ.สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่จะมีระดับน้ำที่ทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ในช่วง 24 ชม.ข้างหน้า
โดยจากสถานการณ์น้ำปัจจุบันทางราชการ ขอให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว ได้เฝ้าระวังและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะในช่วงวันที่ 18-21 ก.ย.ที่จะถึงนี้ เขื่อนเจ้าพระยามีแผนที่จะมีการปรับเพิ่มการระบายขึ้นไปถึง 2,000 ลบ.ม./วินาทีได้ เพื่อพร่องน้ำเขื่อนเจ้าพระยาจากปริมาณน้ำเหนือ ที่อาจจะเพิ่มขึ้นช่วงต้นสัปดาห์หน้า
