
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 สิงหาคม 2565 พ.อ.ดุสิต เกษรแก้ว ชุดตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ได้รับการร้องเรียนเรื่องการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การใช้เอกสารทะเบียน ส.ค.บินหรือบวมมาครอบเพื่อออกโฉนดที่ดิน การก่อสร้างในพื้นที่ต้องห้ามก่อสร้างตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริเวณเขาหมาแหงน ต.บ่อผุด และพื้นที่ ต.มะเร็ต เพื่อรวบรวมหลักฐานพิจารณาให้เป็นคดีพิเศษ
ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติโดยกลุ่มทุนผู้มีอิทธิพล ตามอนุมัติของผู้อำนวยการรักษาความมั่งคงภายในราชอาณาจักร จากการตรวจสอบพบการอนุญาตก่อสร้างของเทศบาลนครเกาะสมุย และการก่อสร้างของกลุ่มทุนจากต่างประเทศ ซึ่งก่อสร้างในพื้นที่ต้องห้ามก่อสร้างตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณท้องที่ ต.ตลิ่งงาม ต.บ่อผุด ต.มะเร็ต ต.แม่น้ำ ต.หน้าเมือง ต.อ่างทอง ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ ต.เกาะพะงัน ต.บ้านใต้ ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พ.ศ.2557 และขยายเวลาเพิ่มเติมถึงปัจจุบันยังมีผลบังคับใช้
โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 เข้าตรวจสอบการก่อสร้างร่วมกับผู้ตรวจการแผ่นดิน กรมพัฒนาที่ดิน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง บริเวณพื้นที่เกาะสมุย พบการอนุญาตก่อสร้างของเทศบาลนครเกาะสมุย และก่อสร้างบนพื้นที่ห้ามก่อสร้างโดยขัดต่อกฎหมาย โดยมีมูลค่าหลายพันล้านบาท ในพื้นที่เขาหมาแหงน หมู่ 3 ต.บ่อผุด และโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของกลุ่มทุนต่างชาติในพื้นที่ ต.มะเร็ต เจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบฯยังพบว่ามีขบวนการของแก๊งที่ดิน นำ ส.ค.1 ที่ใช้ออกเอกสารสิทธิไปแล้ว มาบิน บวม แตกหน่อ โคลนนิ่ง เพื่อออกโฉนดซ้ำให้กลับกลุ่มทุน แล้วนำมาจัดสรรที่ดินสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศขาย และที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีทุจริตออกเอกสารสิทธิเขาหมาแหงนกับแก๊งที่ดินแล้ว 1 ราย ที่ใช้วิธีการนำ ส.ค.1 ที่ใช้ออกโฉนดไปแล้ว นำมาสวมแล้วออกโฉนดครั้งที่ 2 กว่า 120 ไร่ ปปง.ได้ยึดและอายัดทรัพย์สินกว่า 18.6 ล้านบาท และคาดว่าจะใช้วิธีการลักษณะเดียวกันในพื้นที่อีกหลายแห่งด้วย

