Notice: Trying to get property 'child' of non-object in /home/ephclubc/domains/bethailand.com/public_html/angthong/wp-content/themes/jnews/class/ContentTag.php on line 45
27 ก.ย. 2564 เวลา 12:21 น.
ทล.-ทช. เผย 52 เส้นทาง งดเดินทางสัญจร เหตุน้ำท่วมหนัก เร่งจัดเจ้าหน้าที่-เครื่องมือ แก้ไขปัญหาถนน-สะพานชำรุดช่วยเหลือประชาชน
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมือพายุดีเปรสชันเตี้ยนหมู่ โดยให้ดำเนินการตามแผนบรรเทาสาธารณภัยอย่างเคร่งครัด พร้อมวางแนวทางป้องกัน–ฟื้นฟู–เยียวยาหลังสถานการณ์คลี่คลายในทุกมิติ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที และให้ประชาสัมพันธ์การดำเนินการให้ประชาชนให้รับทราบและให้หน่วยงานรายงานผลการดำเนินงานมายังกระทรวงฯ รับทราบทุกวัน นั้น
“กรมฯได้รับข้อสั่งการดังกล่าว โดยหน่วยงานในสังกัดประกอบด้วย สำนักบริหารบำรุงทาง, สำนักงานทางหลวง, ศูนย์สร้างทาง, ศูนย์สร้างและบูรณะสะพาน แขวงทางหลวง และหมวดทางหลวงทั่วประเทศ พื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลน์ พร้อมเร่งระบายน้ำและบำรุงรักษาเส้นทาง โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนและให้ประชาชนได้รับความสะดวกปลอดภัยจากการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง โดยในช่วงเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา กรมทางหลวงได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชน”
ทั้งนี้กรมได้จัดชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องมือ เครื่องจักรออกแก้ไข น้ำท่วมบนเส้นทางเพื่อให้ยานพาหนะสามารถสัญจรผ่านได้ พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ติดตั้งป้ายเตือน และไฟวับวาบแก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง และจัดเจ้าหน้าที่ เครื่องมือและรถช่วยเหลือฉุกเฉิน ออกช่วยเหลือประชาชนเนื่องจากรถดับเนื่องจากน้ำท่วม บนทางหลวง พร้อมช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยขนย้ายสิ่งของ รวมทั้งจัดชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องมือ เครื่องจักร ออกแก้ไข ดินสไลล์ แก้ไขปัญหาน้ำกัดเซาะคอสะพานชำรุด พร้อมติดตั้งสะพานเหล็กชั่วคราว (Baileys) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ขณะเดียวกันดำเนินการขุดลอกวัชพืชเปิดทางน้ำสองข้างทาง และเรียงกระสอบทรายซ่อมแซมจุดรั่วซึมที่เรียงไว้ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากทางหลวงและบ้านเรือนประชาชน และจัดชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องมือ เครื่องจักรออกเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากทางหลวงและบ้านเรือนประชาชน พร้อมจัดทำแผนที่ทางเลี่ยงและประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางทราบ
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวงในระหว่างวันที่ 14 – 27 กันยายน 2564 พบว่า ทางหลวงได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจำนวน 37 จังหวัด 121 สายทาง ผ่านไม่ได้ 11 จังหวัด 29 สายทาง ดังนี้
1. จ.ชัยภูมิ 2 สายทาง ได้แก่ – ทล.201 (ตอน หนองบัวโคก-บ้านลี ที่ กม.84+-300) – ทล.2170 (ตอน วัดปทุมชาติ-หนองจาน ที่ กม.0+000-4+100 , กม.15+000-18+000)
2. จ.นครราชสีมา 3 สายทาง ได้แก่ – ทล.201 (ตอน ด่านขุนทด-หนองบัวโคก ที่ กม.กม.44+000- 48+300) – ทล.2217 (ตอนด่านขุนทด-หนองกราด เป็นช่วงๆ หากเดินทางไป จ.ชัยภูมิ ใช้ ทล.2 แทน) – ทล.2246 (ตอน โคกสี-ตะโก ที่ กม.49+945 หากเดินทางไป จ.ชัยภูมิ ใช้ ทล.202 หรือ ทล.2160 แทน)
3. จ.สุโขทัย 6 สายทาง ได้แก่ – ทล.12 (ตอน เมืองเก่า-สุโขทัย ที่ กม.168+178-กม.171+270 ) – ทล.101 (ตอน คลองโพธิ์-ท่าช้าง ที่ กม.79+969-82+000) – ทล.125 (ตอน แจกัน-บ้านสวน ที่ กม.14+450-19+400) – ทล.1347 (ตอน วัดโคก-สระบัว ที่ กม.1+800-3+200 หากเดินทางจาก จ.ตาก ไป จ.พิษณุโลก ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.12 แทน) – ทล.1195 ตอน สุโขทัย-เดวิด ที่ กม.0+000-1+900
4. จ.ลพบุรี 3 สายทาง ได้แก่ – ทล.2243 (ตอน บัวชุม-สี่แยกบัวชุม ที่ กม.0+340 และที่ กม.1+400) – ทล.2260 (ตอน ลำสนธิ-ซับลังกา ที่ กม.1+800-2+500) – ทล.205 (ตอน เทศบาลลำนารายณ์-ช่องสำราญ ที่ กม.100+400 – กม.104+800 , กม.82+900 ทางลอดใต้ สะพานแม่น้ำป่าสัก, ตอน ม่วงค่อม-คลองห้วยไผ่ ที่ กม.53+300-53+500 ,และตอน ดงพลับ-ม่วงค่อม เป็นช่วงๆ เดินทางไป จ.ลพบุรี ใช้ ทล.2 หรือ ทล.21 แทน ) ,
5. จ.กำแพงเพชร 1 สายทาง ได้แก่ ทล.1 (ตอน โนนปอแดง-ปากดง เป็นช่วงๆ)
6. จ.อ่างทอง 1 สายทาง ได้แก่ ทล.32 (ตอน นครหลวง-อ่างทอง บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานหลวงปู่ทวด)
7. จ.เพชรบูรณ์ 2 สายทาง ได้แก่ – ทล.21 (ตอน ศรีเทพ-ซับสมอทอด ที่ กม.112+700 -กม.116+000 และตอน คลองกระจัง-ศรีเทพ ที่ กม.99+000- 102+500) – ทล.2275 (ตอน แยกศรีเทพ-ซับบอน ที่กม.33+000-34+000 และที่ กม.44+000-48+500)
8. จ.สุพรรณบุรี 2 สายทาง ได้แก่ – ทล.33 (ตอน สุพรรณบุรี-นาคู ที่ กม.9+886 สะพานคลองทับน้ำ) – ทล.340 (ตอน สาลี-สุพรรณบุรี ที่ กม.59+674 สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม)
9. จ.นครสวรรค์ 6 สายทาง ได้แก่ – ทล.11 (ตอน ตากฟ้า-ไดตาล ที่ กม.68+725 แ ละที่ กม.71+600-72+000 และ ไดตาล-น้ำสาดเหนือ ที่ กม.71+600-72+000 เดินทางไป จ.พิจิตร ใช้ ทล.1145 แทน) – ทล.225 (ตอน เกยชัย-ศรีมงคล ที่ กม.82+000-84+500) – ทล.1072 (ตอน ลาดยาว-เขาชนกัน ที่ กม.62+000-63+000 และ กม.44+665 ใช้ทางเลี่ยง ทล. 1072 กม. 22+300 เลี้ยวซ้ายเข้า ทล. 3013 กม.42+900 มุ่งหน้าสู่ อ.ชุมตาบง ทล. 3473 กม. 27+500 เลี้ยวขวา เข้าสู่ ทล. 3504 มุ่งหน้าไปสู่ จ.กำแพงเพชร) – ทล.1119 (ตอน หนองผักหวาน-ท่าตะโก) ที่ กม.31+800-34+000 – ทล.3004 (ตอน ท่าตะโก-ไดตาล ที่ กม.49+000) – ทล.3330 (ตอน เกษตรชัย-สำโรงชัย ที่ กม.20+200-29+000)
10. จ.อุทัยธานี 1 สายทาง ได้แก่ ทล.3456 (ตอน หนองกระดี่-คลองข่อย ที่ กม.3+604)
11. จ.ตาก 2 สายทาง ได้แก่ – 1175 (ตอน ห้วยส้มป่อย-เจดีย์ยุทธหัตถี ที่ กม.23+606 – กม.83+606 – ทล.1090 (ตอน ห้วยน้ำริน-อุ้มผาง ที่ กม.148+750 – 148+900)
ฟากเส้นทางของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) พบสายทางที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 23 สายทาง ประกอบด้วย
1. สายทาง สท.4011 แยก ทล.1056 – บ้านสระบัว อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย น้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร
2. สายทาง นว.2037 แยก ทล.11 – บ้านท่าตะโก อ.ท่าจะโก จ.นครสวรรค์ น้ำท่วมสูง 80 เซนติเมตร
3. สายทาง นว.2057 แยก ทล.11 – บ้านโคกเดื่อ อ.ท่าจะโก จ.นครสวรรค์ น้ำท่วมสูง 70 เซนติเมตร
4. สายทาง กพ.4014 แยก ทล.1242 – เทศบาลตำบลปากดง อ.ปางศิลาทอง, คลองขลุง, เมือง จ.กำแพงเพชร น้ำท่วมสูง 60 เซนติเมตร
5. สายทาง กพ.020 สะพานข้ามแม่น้ำวงก์ อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร
6. สายทาง ชย.6046 บ้านหนองลุมพุก – บ้านโกรกตาแป้น อ.จัตุรัส, เนินสง่า จ.ชัยภูมิ น้ำท่วมสูง 80 เซนติเมตร
7. สายทาง ชย.3013 แยก ทล.201 – แยก ทล.205 อ.จตุรัส, บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ท่วมสูง 100 เซนติเมตร
8. สายทาง ชย.3010 แยก ทล.205 – อ่างเก็บน้ำลำคันฉู อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เส้นทางขาด
9. สายทาง ชย.4050 แยก ทล.2179 – แยก ทล.2069 อ.บำเหน็จณรงค์, ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ท่วมสูง 100 เซนติเมตร
10. สายทาง ชย.3028 แยก ทล.205 – แยก ทล.2354 อ.เทพสถิตย์ จ.ชัยภูมิ เส้นทางขาด
11. สายทาง ชย.3049 แยก ทล.3212 – บ้านหนองประดู่ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เส้นทางขาด
12. สายทาง ชย.4038 แยก ทล.2354 – แยก ทล. 2069 อ.เทพสถิต, บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ไหล่ทางชำรุด
13. สายทาง นม.4008 แยก ทล.2148 – บ้านปะคำ อ.ด่านขุนทด, พระทองคำ จ.นครราชสีมา น้ำท่วมสูง 120 เซนติเมตร
14. สายทาง ขก.3037 แยก ทล.229 – บ้านสำราญ อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น น้ำท่วมสูง 47 เซนติเมตร
15. สายทาง ศก.5050 แยกเทศบาลตำบลขุขันธ์ – บ้านสำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ เส้นทางขาด
16. สายทาง ลบ.2007 แยก ทล.21 – บ้านหินซ้อน อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี น้ำท่วมสูง 65 เซนติเมตร
17. สายทาง ลบ.5129 เลียบเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ฝั่งซ้าย (ตอนลพบุรี) อ.ท่าหลวง, พัฒนานิคม, วังม่วง จ.ลพบุรี เส้นทางขาด
18. สายทาง ลบ.2047 แยก ทล.21 – บ้านชอนน้อย อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี น้ำท่วมสูง 70 เซนติเมตร
19. สายทาง ลบ.3033 แยก ทล.205 – บ้านซับกระโดน อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี น้ำท่วมสูง 60 เซนติเมตร
20. สายทาง ลบ.2134 แยก ทล.21- บ้านหนองสรวง อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี น้ำท่วมสูง 80 เซนติเมตร
21. สายทาง ลบ.4182 แยก ทล.2219 – บ้านตะคร้อ อ.โคกเจริญ, ไพศาลี จ.ลพบุรี เส้นทางขาด
22. สายทาง สก.3007 แยก ทล.348 – บ้านเขาน้อยพรมสุวรรณ อ.โคกสูง, วัฒนานคร จ.สระแก้ว เส้นทางขาด
23. สายทาง กจ.4050 แยก ทล.3086 – บ้านลำอีซู อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เส้นทางขาด