สลด! ผู้เฒ่าเมืองอ่างทองปิดผ้าม่านรอบเตียง ก่อนยิงตัวเองในห้องกายภาพของ รพ.เสียชีวิต

อ่างทอง – ชายวัย 87ปี ยิงกรอกปากตัวเองในห้องกายภาพ โรงพยาบาลแสวงหา เจ้าหน้าที่เร่งช่วยก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา คาดปัญหาเจ็บป่วยโรครุมเร้า เจ้าหน้าที่เผย นวดเสร็จแล้วบอกว่าจะรอให้ญาติมารับแล้วปิดผ้าม่านรอบเตียงอยู่เพียงลำพัง ก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น1นัด

วันนี้ ( 20 ม.ค. ) ร.ต.อ.วิทยา แสนโสดา รองสารวัตรสอบสวน สภ.แสวงหา ได้รับแจ้งมีชายสูงอายุใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในห้องกายภาพ เสียชีวิตอยู่ในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแสวงหา อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง จึงไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน  นายอำเภอแสวงหา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิ  ร่วมกตัญญู

บริเวณห้องกายภาพบำบัด แพทย์แผนไทย พบรอยเลือดกองอยู่ที่บริเวณเตียงด้านใน ส่วยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้ทำการช่วยชีวิตอยู่ที่บริเวณห้องฉุกเฉินและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อว่า นายประเชิญ วงษ์หิรัญ อายุ 87ปี มีบาดแผลถูกกระสุนปืนขนาด.38 ยิงเข้าไปในบริเวณปากทะลุด้านหลังศีรษะ และมีอาวุธปืนขนาดจุดสามแปด  ตกอยู่ที่บริเวณมือข้างขวาของผู้เสียชีวิตอยู่บนเตียงนวด

จากการสอบถาม  เจ้าหน้าที่หญิงสาว  ที่อยู่ภายในห้องเกิดเหตุจำนวน7คน เล่าให้ฟังว่า ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อสีคลีม นุ่งกางเกงแพรสีแดง และสวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำทับไว้  ได้เข้ามานวดกายภาพส่วนเอวลงมาด้านล่าง เมื่อทำการนวดเสร็จแล้วขอรออยู่ที่เตียงนวดเพื่อทำการรอญาติมารับ จึงมีการปิดผ้าม่านโดยรอบบริเวณเตียงให้ผู้ใช้บริการนอนรออยู่ด้านใน ส่วนเจ้าหน้าที่และพนักงานที่อยู่ในห้องทั้งหมดจำนวน7คนนั้นได้มานั่งรวมตัวอยู่ที่โต๊ะและเก้าอี้ภายในห้องเพื่อเตรียมตัวจะรับประทานอาหารก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจึงวิ่งออกไปแจ้งเจ้าหน้าที่เจ้ามาดูและช่วยเหลือ พบว่ามีปืนขนาดจุดสามแปดวางอยู่ที่มือขวาบนเตียงและได้นำตัวไปยังห้องฉุกเฉินเพื่อช่วยชีวิตและเสียชีวิตในเวลาต่อมมา

ด้านนาย รัฐวิช  จิตสุจริตวงศ์ นายอำเภอแสวงหา เล่าให้ฟังว่า ได้รับแจ้งว่ามีคนไข้ยิงตัวตายที่โรคพยาบาลแสวงหาจึงเข้ามาตรวจสอบ จาการสอบถามคุณหมอและพยาบาลเล่าให้ฟังว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นผู้ป่วยที่มารักษาการนวดอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว และยิงตัวเองที่ห้องกายภาพและช่วยเหลือมาที่ห้องฉุกเฉินและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการสอบถามญาติทราบว่าผู้เสียชีวิตมีโรครุมเร้ารักษาไม่หายและเป็นโรคซึมเศร้าด้วย ส่วนสาเหตุที่แท้จริงนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนหาเหตุจูงใจในการคิดสั้นครั้งนี้ ที่แท้จริง ตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป