“บอกตง” ตัวตึงติ๊กต็อกโต้ไถเงินป่วนคนโชว์ลูกคอแลก 200 ซึ้งแจ๊สคัฟเวอร์จนดัง (คลิป)

จากกรณีคลิปติ๊กต็อก “นายอั้น” เดินตระเวนไหว้ขอเงินคนในตลาดเทศบาล 2 ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง และคลิปที่เจ้าตัวเดินขอเงินคนที่กำลังขับรถไปมาบนท้องถนน บอกว่าขอเงิน 20 บาท เอาไปซื้อขนม คลิปที่เดินขอเงิน 20 บาทกับคนในตลาด แลกกับร้องเพลงให้ฟัง สุดท้ายคลิปที่ขอเงินจากคนในตลาด 20 บาท แต่ถูกแซวว่าเอาไปซื้อยาม้าหรือเปล่า เจ้าตัวก็บอกว่า “ไม่ดูดม้าแล้ว เพราะแพง ตั้ง 250 บาท” ซึ่งสังคมตั้งคำถามว่าสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านหรือไม่

ล่าสุดวันที่ 23 ธ.ค. 65 เวลา 19.20 น. ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังตลาดเทศบาล 2 ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง  นายอั้น หรือ อรรถพล มาลัย อายุ 42 ปี ทักทายเสียงดังกับทีมข่าว พร้อมโชว์สกิลร้องเพลงโปรด “ซมซาน – เสก โลโซ” และเพลง “อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ – เบิร์ด ธงไชย” ด้วย

นายอั้น บอกว่า เหตุผลที่ตนไปตลาดเพราะต้องการไปสร้างความสุข ความร่าเริงให้กับทุกคน ด้วยการร้องเพลงและเล่นตลก ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะไปขอเงินชาวบ้าน เวลาใครให้เงินมา ตนก็จะให้คืนหมด แต่ถ้าครั้งไหนไม่คืน ก็จะเอาไปซื้อกับข้าวมากินกับครอบครัว ซื้อไอศกรีมกินเล่น เมนูที่ชอบที่สุดคือ พะโล้เป็ดตัวละ 250 บาท ซื้อทุกวัน ยืนยันว่าไม่เคยเอาเงินไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

แต่ละวันเวลาไปตลาด แล้วไปร้องเพลงไปสร้างความสุขให้กับทุกคน ได้เงินกลับมาวันละ 200-300 บาท แต่ละวันก็จะร้องวนไปวนมาอยู่ประมาณ 5 เพลง ตนขอฝากบอกศิลปินในดวงใจอย่าง “พี่เบิร์ด ธงไชย” กับ “พี่เสก โลโซ” ด้วยว่า “ผมรักมากที่สุด ผมชอบเพลงพี่มาก ขอให้พี่เบิร์ดกับพี่เสกเจริญนะครับ”

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังถามถึงประเด็นดราม่าที่หลายคนมองว่าพฤติกรรมไปกระโดดเกาะรถขอเงิน แตะเนื้อต้องตัวและไม่สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในตลาดนั้นดูไม่เหมาะสม สร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านหรือไม่ นายอั้นบอกว่าจะน้อมรับและหลังจากนี้จะปรับตัวใหม่ และที่บางคลิปเห็นว่าตนไม่ใส่หน้ากากอนามัย ก็ยอมรับว่าลืมบ้างบางครั้ง เข้าใจว่าทุกคนกลัวอันตราย ต่อไปจะใส่หน้ากากตลอด

เมื่อถามว่าตอนนี้กลายเป็นคนดัง กลายเป็นดาวติ๊กต็อกไปแล้ว เจ้าตัวบอกว่า “รู้ตัวดีว่าผมดังที่สุด ผมเป็นคนดังบอกตง เดินไปไหนมาไหนคนก็ขอเพลง แต่ต่อให้ผมดัง ผมก็ไม่ถือตัว ทุกคนเข้าถึงได้ รู้ด้วยว่าแจ๊ส ชวนชื่น เอาตนไปเลียนแบบจนโด่งดัง เพราะฉะนั้นตนก็ขอยกมือไหว้ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ให้เงินตน แต่ยืนยันว่าต่อให้ดังแค่ไหน ก็ไม่พร้อมที่จะเข้าสู่วงการบันเทิง เพราะอยากอยู่บ้านดูแลพ่อแม่”