Notice: Trying to get property 'child' of non-object in /home/ephclubc/domains/bethailand.com/public_html/angthong/wp-content/themes/jnews/class/ContentTag.php on line 45
ผู้ที่สมัคร ม.40 โดยจ่ายเงินสมทบงวดแรกผ่านตู้บุญเติม จากนั้นระบบเช็กสิทธิแสดงสถานะเป็น “ไม่ได้รับสิทธิ” อย่าตกใจ สำนักงานประกันสังคมได้แก้ไขปัญหาแล้ว
วันที่ 23 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ชี้แจงกรณีแรงงานอิสระกลุ่มที่สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ตามกำหนดเวลาให้สมัครเพิ่มเพื่อรับเงินเยียวยา 5,000 บาท แบ่งเป็น 1.กลุ่มสมัครภายใน 31 กรกฎาคม 2564 และจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 10 จังหวัด และ 3 จังหวัด
และ 2. กลุ่มสมัครและจ่ายเงินสมทบงวดแรกวันที่ 4-24 สิงหาคม 2564 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 3 จังหวัด และ 16 จังหวัด ที่ใช้วิธีจ่ายเงินสมทบงวดแรกผ่านตู้บุญเติม แล้วจากนั้นระบบเช็คสิทธิได้เปลี่ยนจาก “ได้รับสิทธิ” เป็น “ไม่ได้รับสิทธิ”
นางสาวลัดดาอธิบายว่า ตู้บุญเติมที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศมีรหัสพื้นที่ขึ้นต้นดัวย 10 ทั้งหมด ซึ่งเป็นรหัสพื้นที่ กทม. ดังนั้นจึงทำให้เกิดปัญหาในการระบุเขตพื้นที่ชำระเงิน ที่ไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ที่จ่ายเงินเข้ามมาอยู่พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 13 จังหวัด และ 16 จังหวัดหรือไม่
“ดังนั้น ก่อนหน้านี้เราจึงต้องเปลี่ยนการแสดงสถานะบนระบบเช็กสิทธิทางเว็บไซต์ของประกันสังคม ของผู้ที่จ่ายเงินผ่านตู้บุญเติม จากได้รับสิทธิเป็นไม่ได้รับสิทธิชั่วคราว เพื่อทำการตรวจสอบโดยเราให้ผู้ให้บริการตู้บุญเติมทำการจำแนกพื้นที่การจ่ายเงินตามจริงออกมา”
ซึ่งผู้ที่ทำการจ่ายเงินเพื่อสมัครมาตรา 40 ผ่านตู้บุญเติมมีทั้งหมดประมาณ 2 ล้านคน เมื่อวานนี้ได้จำนวนผู้สมัครที่จ่ายเงินในพื้นที่ 29 จังหวัดสีแดงเข้มตามเวลามี่กำหนดแล้วว่ามีจำนวน 1.9 แสนคน จำนวนผู้ที่จ่ายนอกพื้นที่มีประมาณ 4,000 คนเท่านั้น
นางสาวลัดดาบอกว่า ผู้ประกันตนกลุ่มนี้จะสามารถเช็กสิทธิทางเว็บไซต์ของประกันสังคมได้ประมาณสัปดาห์หน้า และขอให้ผูกพร้อมเพย์บัญชีธนาคารกับหมายเลขบัตรประชาชนเอาไว้ และทำการตรวจสอบด้วยว่าบัญชีธนาคารยังมีสถานะเปิดอยู่หรือไม่ (active) หากบัญชีปิด ขอให้ทำการเปิดบัญชี และผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชนให้เรียบร้อย ซึ่งทางสำนักงานประกันสังคมจะทำการโอนเงินเยียวยาให้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ กลุ่ม 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา อยู่ในพื้นที่ล็อกดาวน์ 2 เดือน จึงได้รับเงินเยียวยา 2 รอบ รอบละ 5,000 บาท รวมเป็น 10,000 บาท
กลุ่ม 3 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา อยู่ในพื้นที่ล็อกดาวน์ 2 เดือน จึงได้รับเงินเยียวยา 2 รอบ รอบละ 5,000 บาท รวมเป็น 10,000 บาท
กลุ่ม 16 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา ระยอง ราชบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีบุรี เพชรบุรี ตาก อ่างทอง นครนายก สมุทรสงคราม และสิงห์บุรี อยู่ในพื้นที่ล็อกดาวน์ 1 เดือน จึงได้รับเงินเยียวยา 1 รอบ 5,000 บาท