Notice: Trying to get property 'child' of non-object in /home/ephclubc/domains/bethailand.com/public_html/angthong/wp-content/themes/jnews/class/ContentTag.php on line 45
5 ก.ย.64-นายกฤษฎา ศรีเพิ่มพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท ออกหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ประกอบด้วยจังหวัด อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา หลังจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีแนวโน้มสูงขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่างตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออก ทำให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ในอัตราเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน วันนี้ (5 ก.ย. 64) เมื่อเวลา 06.00 น. มีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C2 จังหวัดนครสวรรค์ 841 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สมทบกับแม่น้ำสะแกกรัง ผ่านสถานี Ct.19 จังหวัดอุทัยธานี 55 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระดับน้ำเหนือเขื่อน +16.50 เมตร(ระดับน้ำทะเลปานกลาง) ระดับท้ายเขื่อน +8.73 เมตร(ระดับน้ำทะเลปานกลาง) ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 563 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 600-700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณตำบลกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สำนักงานชลประทานที่ 12 จะควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว ด้วยการบริหารจัดการน้ำเต็มศักยภาพของพื้นที่ โดยมิให้มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อ ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ จึงขอแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ขอให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด